PMC Expert | Bottleneck Analysis
903
post-template-default,single,single-post,postid-903,single-format-standard,ajax_fade,page_not_loaded,,qode_grid_1300,footer_responsive_adv,qode-child-theme-ver-1.0.0,qode-theme-ver-11.0,qode-theme-bridge,wpb-js-composer js-comp-ver-5.1.1,vc_responsive

Bottleneck Analysis

Bottleneck Analysis

คอขวด (Bottleneck)คืออะไร
คอขวด (หรือข้อ จำกัด ) ในห่วงโซ่อุปทานหมายถึงทรัพยากรที่ใช้เวลานานที่สุดในการดำเนินงาน

 

ขอยกตัวอย่างเช่น เมื่อไปวิ่ง  City Run ก็จะวิ่งกันไปเป็นกลุ่มๆกับเพื่อนๆ คอขวดหมายถึงสมาชิกที่วิ่งช้าที่สุดของกลุ่ม สมาชิกนั้นสามารถกำหนดความเร็วของทั้งกลุ่มได้ เช่นเดียวกันกับกระบวนการในการผลิต หากส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานช้าโดยไม่จำเป็นก็สามารถลดความเร็วและประสิทธิภาพของกระบวนการผลิตทั้งหมดได้
เป้าหมายของการวิเคราะห์คอขวด?
เป้าหมายของการวิเคราะห์คอขวดคือการกำหนดส่วนที่ช้าที่สุดของกระบวนการผลิตจากนั้นหาวิธีการเพิ่มความเร็ว กระบวนการนี้มีค่าใช้จ่ายสูง แต่มักจะนำไปสู่การเพิ่มประสิทธิภาพและผลกำไร การเพิกเฉยต่อปัญหาคอขวดอาจมีค่าใช้จ่ายสูงมากกว่า เกิดความสูญเปล่าหรือทำให้ส่งงานลูกค้าไม่ทันเวลา

การวิเคราะห์คอขวดควรดำเนินการเมื่อใด เมื่อผู้จัดการหรือผู้ประกอบการสงสัยว่ากระบวนการผลิตใช้เวลานานเกินไป ณ จุดนี้ผู้จัดการจะพยายามกำหนดตำแหน่งที่เกิดปัญหาคอขวด

 

ตัวอย่างของ Takt Time? นี่คือตัวอย่าง:

เวลาทั้งหมด: 8 ชม. X 60 นาที = 480 นาที

พัก: 50 นาที

เวลาที่มีอยู่: 430 นาที

ความต้องการของลูกค้าใน 8 ชั่วโมง: 100 ชิ้น

เวลา Takt: 430/100 = 4.3 นาที = 258 วินาที

 

ถ้าเรา   Line   การประกอบชิ้นงานซึ่ง มีอยู่  3 Process ดังนี้

Process การประกอบ 1 : cycle time = 200 min,

Process การประกอบ 2: cycle time = 300 min ,

Process ที่ 3  (Visual inspection): cycle time =250 min.

 

เราจะไม่สามารถผลิตงานทัน เพราะ  Line   การประกอบเราจะใช้เวลาเท่ากับกระบวนการที่นานที่สุด คือ  300  นาที  (Bottleneck)

ดังนั้นเราจะต้องปรับปรุงที่กระบวนการการประกอบ 2  เพื่อให้ทำงานได้เร็วขึ้น เช่นเพิ่มคนในการประกอบชิ้นงาน เพื่อให้แบ่งงานการประกอบ หรือ ต้องจัดขั้นตอนใหม่ให้คนที่ทำงานประกอบ 1  มาช่วยประกอบงานบ้างส่วนของคนที่  2

ถ้าเพิ่มคนกระบวนในการประกอบ 2 เป็น 2 คนถ้าเวลาในการทำงานใหม่ = 150  min.  เราก็จะผลิตงานได้ทันตามความต้องการลูกค้า

เพราะ  Cycle time < Takt time  (Cycle time = 250 min < Takt time 258 min)

 

ผู้เขียน

สุขุม รัตนเสรีเกียรติ

ที่ปรึกษาระบบบริหารงานคุณภาพ