29 Nov MSDS and IMDS
How is different between MSDS and IMDS?
Material Safety Data Sheet (MSDS) ชื่อที่รู้จักโดยทั่วไป หรือ Safety Data Sheet (SDS)
คือเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมีที่จะแสดงข้อมูลของสารเคมีที่มีการแสดงข้อมูลตั้งแต่ความเป็นอันตรายพิษวิธีใช้การเก็บรักษาการขนส่งการกำจัดและการจัดการอื่นๆของสารเคมีหรือเคมีภัณฑ์ประเภทนั้นๆเพื่อให้การใช้สารเคมีนั้นๆเป็นไปด้วยความปลอดภัยและไร้ซึ่งความอันตรายขณะใช้งานนั่นเองเพราะหากมีการนำเข้าสารเคมีแบบผิดๆบุคลากรที่จำเป็นจะต้องใช้สารเคมีดังกล่าวไม่มีความรู้และความสามารถในการควบคุมดูแลก็อาจจะนำมาซึ่งการสูญเสียและอาจถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงมีการจัดทำเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมีซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยเบื้องต้น เมื่อผู้ปฎิบัติงานเกิดอุบัติเหตุจากการทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี สามารถดูการปฐมพยาบานเบื้องต้น หรือสามารถส่งตัวผู้ป่วยพร้อมเอกสาร SDS ไปรักษาที่โรงพยาบาล เพื่อให้คุณหมอทราบรายละเอียดว่าประสบอุบัติเหตุเกี่ยวกับเคมีอะไรเพื่อจะได้วินิฉัยโรคได้ถูกต้องมากขึ้น สำหรับ Auditor ISO14001 ก็มีการตรวจว่ามี SDS ครบและอยู่ที่จุดปฎิบัติงานหรือสามารถเข้าถึงได้ง่ายหรือไม่
เอกสารดังกล่าวนี้ ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการจัดการ SDS ดังนี้
SDS ควรมีข้อมูลครบทั้ง 16 หัวข้อ
- ข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมี และบริษัทผู้ผลิตและหรือจำหน่าย
- ข้อมูลความเป็นอันตราย
- ส่วนประกอบและข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม
- มาตรการปฐมพยาบาล
- มาตรการผจญเพลิง
- มาตรการจัดการเมื่อมีการหกรั่วไหล
- การใช้และการจัดเก็บ
- การควบคุมการได้รับสัมผัสและการป้องกันส่วนบุคคล
- สมบัติทางกายภาพและเคมี
- ความเสถียรและการเกิดปฏิกิริยา
- ข้อมูลด้านพิษวิทยา
- ข้อมูลด้านระบบนิเวศ
- ข้อพิจารณาในการกำจัด
- ข้อมูลสำหรับการขนส่ง
- ข้อมูลเกี่ยวกับกฎข้อบังคับ
- ข้อมูลอื่น ๆ
International Material Data System (IMDS)
IMDS เป็นฐานข้อมูลที่สามารถเปิดได้ทาง Internet ฐานข้อมูลนี้ เกิดขึ้นเนื่องมาจากมีข้อบังคับของกลุ่มประเทศยุโรปเกี่ยวกับการจัดการวงจรชีวิตของรถยนต์ (Directive of the European Parliament 2000/53/EG regarding End-of-Life Vehicles) ซึ่งมีการกำหนดบังคับเกี่ยวกับเรื่องการจัดการรถยนต์เหล่านี้เมื่อรถยนต์เหล่านี้สิ้นอายุขัยการใช้งาน ดังนั้นจึงมีข้อบังคับห้ามใช้สารโลหะหนักหรืออื่นๆ ในส่วนประกอบของรถยนต์ กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์จึงร่วมมือกันจัดตั้งฐานข้อมูล IMDS นี้ขึ้นมา เพื่อใช้ประโยชน์ในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตในการเลือกส่วนประกอบที่จะประกอบเป็นรถยนต์ ตลอดจนเรื่องของการหาแนวทางการ recycle ส่วนประกอบของรถยนต์เมื่อรถยนต์สิ้นอายุขัยการใช้งาน
ซึ่งทางองค์กรจะต้องบันทึกข้อมูลว่าผลิตภัณฑ์ มีน้ำหนักเท่าไร และ มีส่วนประกอบอะไรบ้าง (BOM) ซึ่งส่วนประกอบที่รวมกันมาเป็นชิ้นงาน ก็ต้องบันทึกว่าส่วนประกอบแต่ละชิ้นน้ำหนักเท่าไร และ ส่วนประกอบเหล่านั้นประกอบด้วยอะไรบ้าง หรือมีสารเคมีอะไรบ้าง
ขอยกตัวอย่างง่ายๆที่อาจจะไม่เกี่ยวกับชิ้นส่วนยานยนต์เช่น องค์กรผลิตปากกา
Level 1 = ปากกา ทางองค์กรบันทึก Part name- ปากกา, Part number, น้ำหนัก เป็นต้น
Level2 = ให้บันทีกส่วนประกอบของปากกา เช่น
2.1 ด้ามปากกา- ทางองค์กรบันทีก Part name, part number, IMDS number, Qty, น้ำหนัก ,etc.
2.2 หมีก- ทางองค์กรบันทีก Part name, part number, IMDS number, Qty,
2.3 หัวปากกา- ทางองค์กรบันทีก Part name, part number, IMDS number, Qty, น้ำหนัก ,etc.
2.4 ด้ามกดปากกา- ทางองค์กรบันทีก Part name, part number, IMDS number, Qty,
สำหรับ Supplier ของผู้ผลิตปากกา ก็ต้องกรอก IMDS ใน Level ถัดๆไปเช่นกัน ยกตัวอย่าง Supplier ผลิตหมึก
Level 1= หมึก ทางองค์กรบันทึก Part name- หมึก, Part number, น้ำหนัก เป็นต้น
Level 2 = ให้บันทีกเคมีที่เป็นส่วนประกอบหมึก เช่น
2.1 เคมีเบอร์1 – ทางองค์กรบันทีก Part name, part number, IMDS number, Qty, น้ำหนัก ,etc.
2.2 เคมีเบอร์2 – ทางองค์กรบันทีก Part name, part number, IMDS number, Qty,
ดังนั้น IMDS ก็จะสามารถเก็บบันทึกข้อมุลของ วงจรชีวิตของรถยนต์ ตั้งแต่ระดับแรกรถยนต์ ไล่ไปเลยๆจนถึงชิ้นส่วน และ ส่วนประกอบทางเคมี และ IMDS ยังสามารถตรวจสอบได้ว่ามีสารต้องห้ามเกินกว่าค่าที่กำหนดอยู่ในผลิตภัณฑ์ได้อีกด้วย เพื่อให้ผู้ผลิตชิ้นส่วนเหล่านั้นพิจารณาเพื่อปรับปรุงหรือลดสารต้องห้ามเพื่อไม่ให้เกินค่าที่กฎหมายกำหนด
สำหรับ IATF16949 Auditor ก็สามารถตรวจข้อกำหนดนี้ได้ในช่วง New model Process หรือ ตรวจช่วงการทำ PPAP ในหัวข้อ Section 2.1 Design Record.
สรุป ดังนั้น SDS กับ IMDS จึงมีความแตกต่างกัน โดยที่ จุดประสงค์ของ SDS คือ คือเอกสารข้อมูลความปลอดภัยสารเคมีที่จะแสดงข้อมูลของสารเคมีที่มีการแสดงข้อมูลตั้งแต่ความเป็นอันตรายพิษวิธีใช้การเก็บรักษาการขนส่งการกำจัดและการจัดการอื่นๆของสารเคมี ส่วน IMDS เป็น Database ที่จะบันทึกส่วนประกอบของรถยนต์โดยบันทึกตั้งแต่รถยนต์จนถึงชิ้นส่วนย่อยๆ เพื่อใช้ในมุมมองของการจัดการวงจรชีวิตของรถยนต์
ผู้เขียน สุขุม รัตนเสรีเกียรติ
Sukhum Rattanasereekiat