04 Jan Push and Pull System
Push and Pull System คืออะไร????
ระบบผลัก (Push Production System):
บริษัท ที่ใช้ระบบผลักจะคาดการณ์ความต้องการและใช้กระบวนการวางแผนความต้องการวัสดุ (MRP) เพื่อผลิตสินค้าและบริการล่วงหน้า สิ่งนี้เกี่ยวข้องกับแนวคิด Just-in-Case
การคาดการณ์นี้อาจไม่ถูกต้องเสมอไปและจำเป็นต้องมีการกักตุนสินค้าคงคลัง แต่ก็ยังคงเป็นกลยุทธ์ที่มีประโยชน์สำหรับผลิตภัณฑ์ที่มักจะมีงานอยู่ระหว่างดำเนินการ (WIP) หรือระยะเวลารอคอยนาน
ระบบผลักดันมีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความไม่แน่นอนของความต้องการต่ำหรือมีความประหยัดในการที่จะผลิตครั้งเดียว Lot ใหญ่แต่ลดต้นทุนได้สูง
ตัวอย่างเช่น การวางแผนความต้องการวัสดุ (MRP) ที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นระบบผลักดันเนื่องจากไม่มีข้อจำกัด WIP ก่อนหน้านี้ สินค้าถูกผลิตภายใต้ตารางการผลิตหลักโดยไม่คำนึงถึงสถานะปัจจุบัน หรือการกำหนด Min Max Stock แล้วผลิตเติมเต็มเมื่อจำนวน Stock ถึง Minimum stock.
ระบบดึง (Pull Production System):
Pull System เป็นวิธีการผลิตแบบลีนที่ใช้กลยุทธ์ Just-in-Time ในการไม่ผลิตสินค้าจนกว่าจะได้รับคำสั่งซื้อ แทนที่จะคาดการณ์ความต้องการระบบดึงจะสร้าง “ตามความจำเป็น”
สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับ บริษัท ที่ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนของอุปสงค์สูง ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ต่ำ (Product mix) และการผลิตทีละเยอะๆไม่ได้ช่วยในการลดต้นทุน
ตัวอย่างเช่น การใช้ Kanban
Hybrid Push-pull Strategy:
เป็นการใช้ระบบ Push กับ Pull ผสมกันในการวางแผนการผลิตเช่น
บริษัทผลิตเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกายในช่วง COVID19. จะทำการวางแผนการประกอบ (Assembly process) ตามจำนวนรุ่นและจำนวน เท่าที่ลูกค้าสั่ง (Pull system) แต่สำหรับชิ้นส่วน (Component part) ที่จะนำมาประกอบเป็นเครื่องวัดอุณหภูมิ จะผลิตชิ้นส่วนเข้า Stock เอาไว้เช่น เมื่อชิ้นส่วนลดลงเหลือ Min Stock ก็จะผลิตให้เติมเต็ม Stock เพียงพอสำหรับใช้การประกอบ. (Push System)
ผู้เขียน:สุขุม รัตนเสรีเกียรติ
IATF16949:2016 Trainer and consulting.